Karato Fish Market (Yamaguchi, Shimonoseki)

ประภาคารทั้งสองที่ท่าเรือคะระโตะ เมืองชิโมะโนะเสะกิ จังหวัดยะมะงุจิ

 

เรือเฟอร์รีเทียบท่าที่ท่าเรือคะระโตะ

 

ชั้นสองของเรือที่เปิดโล่งรับลมเต็มที่

จากสถานีรถไฟโมะจิโกะ และโมะจิโกะเรโทร จะมีป้ายบอกทางไปท่าเรือเฟอร์รี (Shimonoseki, Karato ferry station) เพื่อข้ามสู่เกาะฮอนชู (Honshu) ที่เมืองชิโมะโนะเสะกิ (Shimonoseki) จังหวัดยะมะงุจิ (Yamaguchi) โดยจะมีเรือออกทุกชั่วโมงตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงบ่าย 3 เรือมี 2 ชั้น ชั้นบนชมวิวได้สบายตา ระหว่างทางลมพัดเย็นสบาย ท่ามกลางทิวทัศน์เรือประมงที่มีคนนั่งตกปลา รวมทั้งวิวสะพานคัมมง (Kanmon-kyo, kyo = สะพาน) และประภาคาร

สะพานคัมมง และประภาคารประภาคาร

สะพานคัมมงมีความยาวกว่า 700 เมตร โดยเชื่อมเกาะคิวชูกับเกาะฮอนชูในบริเวณแคบที่สุดของสองเกาะ จึงได้ชื่อว่าช่องแคบคัมมง (Kanmon strait) ซึ่งในฤดูร้อน เหนือสะพานขึ้นไปจะมีการยิงดอกไม้ไฟมาจากทั้งสองฝั่งของเกาะจนสว่างไสวเต็มท้องฟ้า  แต่ยามเช้าวันนั้น ด้วยเวลาเพียง 20 นาที เรือเฟอร์รีจากท่าเรือโมะจิโกะได้แล่นผ่านประภาคารเข้าเทียบท่าเรือคะระโตะเป็นที่เรียบร้อย

 

ท่าเรือคะระโตะ (Karato port)  และตลาดปลาคะระโตะ (Karato fish market)

ถึงแล้วท่าเรือคะระโตะ (Karato port)

 

ตลาดปลาคะระโตะ

 

ตลาดปลาคะระโตะคือเหตุผลในการมาเยือน ที่นี่คือตลาดเช้า หรือตลาดท้องถิ่นที่ขายอาหารทะเลทั้งสด และแปรรูป ตลอดจนวัตถุดิบในการปรุงอาหาร โดยสิ่งที่เห็นเยอะมากคือปลาปักเป้า (Torafuku) เนื้อใสแจ๋วที่จัดวางในถาด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ และอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของเมือง เนื่องจากเป็นแหล่งจับขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเมนไทโกะ (Mentaiko) หรือไข่ปลาค๊อด (Cod) อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของฟุคุโอะกะ รวมทั้งตลาดซูชิ (Sushi) ที่ราคาเริ่มต้นคำละ 100 เยน วางเรียงเป็นตับจนละลานตาโดยหลายร้านมีพนักงานออกมายืนเชื้อเชิญ ทำให้คึกคักมาก และซูชิน่ากินไปหมดจนเบลอ (ฮา)

เชิญชิมซูชิราคาย่อมเยา

 

ซูชิสารพัดหน้า เช่น โอะโทะโระ (Otoro) ไขมันส่วนท้องตอนบนของมะงุโระ (Maguro) หรือทูน่า ได้ชื่อว่าราชาทูน่า เพราะเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด และราคาสูงกว่าอีกสองส่วนคือไขมันท้องด้านล่างชูโทะโระ (Chutoro) และส่วนเนื้อแดงอะกะมิ (Agami)

 

กุ้งหวาน หรืออะมะเอะบิ (Amaebi) พร้อมวะสะบิ (Wasabi) และเลมอน

 

สาหร่ายทะเลหน้าไข่ปลาแซลมอน หรืออิคุระ (Ikura) กับอุนิ (Uin) หรือไข่หอยเม่น

 

ความละลานตาของซูชิสารพัดหน้า

 

หน้าแซลมอนพร้อมไข่

 

กุ้งหวานพร้อมไข่คำละ 100 เยนเอง

 

ซูชิหน้าอะกามิ หรือทูน่าส่วนเนื้อแดง

 

ชูชิหน้าปลาปักเป้า หน้าไข่หอยเม่น หน้าไข่หวาน ฯลฯ

 

ซูชิหน้าทะโระ (Taro) หรือปลาหมึกยักษ์ หน้าไข่หวาน หน้ากุ้ง หน้าปลาะมะจิ (Hamachi) ฯลฯ

 

มายาวๆ ทั้งตัวเลยจ้า ซูชิหน้าปลาไหลทะเล หรืออะนะโงะ (Anogo) ย่างราดซอส

 

สะซะเอะ (Sazae) หรือหอยสังข์ คว้านเนื้อออกมาปรุงรสเสิร์ฟพร้อมผักท้องถิ่นพร้อมกิน และก้ามปูเล็กกะทัดรัด

 

ก้ามปูจิ๋วมาในราคาเบาๆ

 

อาหารเสียบไม้ทอด หรือคุชิคัทสึ (Kushikatsu)

 

ซูชิแบบกล่องที่เลือกสรรมาให้เสร็จสรรพ

 

ข้าวหน้าทะเล หรือไคเซนดง (Kaisen-don, don =ข้าวราดหน้ าต่างๆ) ทั้งหน้าไข่หอยเม่น และไข่ปลาแซลมอน ในราคาย่อมเยา

 

เบาๆ เดินดูจนอิ่ม (ฮา) เช้านั้นเลยกินแค่นี้ หอยเชลล์ หรือโฮะตะเตะ (Hotate) ก้ามปู และซูชิกุ้ง

 

พื้นที่ส่วนกลางเพื่อความเอร็ดอร่อยด้านหน้าตลาด

 

ร้านข้าวต้มปลาปักเป้าเจ้าดังของตลาด คิวยาวเหยียด

 

พื้นที่ในตลาดใกล้ร้านข้าวต้ม เลือกนั่งได้ตามอัธยาศัย

 

ทิวทัศน์อาหารทะเลสดในตลาด

ปลาปักเป้า (Torafugu) อาหารท้องถิ่นขี้นชื่อของเมืองชิโมะโนะเสะกิ เนื่องจากเป็นแหล่งจับที่สำคัญของประเทศ จนได้ชื่อว่าเมืองหลวงแห่งปลาปักเป้า (Fugu capital)

 

การกินปลาปักเป้าในอดีตจะนิยมเฉพาะช่วงฤดูหนาว เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย อีกทั้งยังมีค่านิยมแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ และมั่งคั่งด้วย เนื่องจากมีราคาสูง และเป็นปลาธรรมชาติที่จับในฤดูหนาว  แต่เมื่อมีการทำฟาร์มแล้ว ทำให้่สามารถกินได้ตลอดปี และราคาย่อมเยาลง

 

เมนไทโกะ (Mentaiko) หรือไข่ปลาค็อด (Cod) อาหารขึ้นชื่อของฟุคุโอะกะ แต่เมืองใกล้เคียงเพียงนั่งเรือเฟอร์รีข้ามฟาก ก็ยังเจอ

 

โซนอาหารทะเลสดๆ

ว้ายยยย มีลดราคาด้วยเธอออ

 

ปลาหมึกเรียงเป็นแถวเป็นแนว ยังเห็นดวงตาใสๆ อยู่เลย

 

ทะโกะ (Tako) หนวดปลาหมึกยักษ์สมชื่อ ที่นำไปทำทะโกะยะกิ (Takoyaki)

 

หนวดปลาหมึกปะทะหอยสังข์ญี่ปุ่น หรือสะซะเอะ (Sazae)

 

เอะบิ (Ebi) กุ้งตัวอวบมากๆ

 

บรรยากาศจับจ่ายอาหารทะเล

 

โซนอาหารทะเลแปรรูป

 

โซนตลาดด้านใน ขายอาหารแปรรูป และขนมขบเคี้ยว

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพักผ่อนดีๆ

 

ตลาดคะระโตะด้านที่ตรงข้ามกับศาลเจ้าคะเมะยะมะฮะจิมังงุ Address : Karato fish market 5-50 Karato pier, Shimonoseki-shi, Yamaguchi-ken 750-0005 เปิดทุกวัน วันธรรมดา 10:00-15:00 เสาร์-อาทิตย์ 07:00-15:00 น. Call : 0832-31-1440 www.karatoichiba.com การเดินทาง : จาก Mojiko station นั่งเฟอร์รี่ที่ Shimonoseki karato pier no.1 ข้ามฟาก 20 นาที สู่ Karato pier ตลาดอยู่ตรงท่าเรือ หรือจาก JR Shimonoseki เดินต่อ 7 นาที หรือต่อรถประจำทางลงสถานี Karato เดิน 2 นาที

 

 

ศาลเจ้าคะเมะยะมะฮะจิมังงุ (Kameyama hachimangu shrine)

จากตลาดปลาคะระโตะเดินข้ามถนนมาคือศาลเจ้าคะเมะยะมะฮะจิมังงุ (Kameyama hachimangu shrine) หรือศาลเจ้าชินโต ซึ่งมีเสาปูนโทะริอิตั้งโดดเด่นริมถนน ต้องไต่บันไดขึ้นไปเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือขอพรให้ชนะอุปสรรคทั้งปวง และเมื่อหันกลับมามองจะเห็นทิวทัศน์ทะเลปรากฎอยู่เบื้องล่าง ศาลเจ้าแห่งนี้มีรูปปั้นปลาปักเป้าติดตั้งไว้ เพราะได้ชื่อว่าเมืองหลวงปลาปักเป้า (Fugu capital) จากการเป็นแหล่งจับปลาปักเป้าขนาดใหญ่ของประเทศ

Address : Kameyama hashimangu shrine 4-11 Karato-cho, Shimonoseki-shi, Yamaguchi-ken 750-0005 เปิด 9:00-17:00 น. Call : 083-235-1906 การเดินทาง :  เดินข้ามถนนจากตลาดปลาคะระตะ (Karato fish market) หรือจาก JR Shimonoseki นั่งรถประจำทางลงป้าย Karato เดินต่อ 4 นาที

 

สถานกงศุลอังกฤษ (Former british consulate)

เมืองชิโมะโนะเสะกิ นอกจากศาลเจ้าชินโตแล้ว ยังมีอาคารสถาปัตยกรรมตะวันตกกระจายอยู่หลายหลัง เนื่องจากอิทธิพลในการเปิดท่าเรือค้าขายกับสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ในยุคเมจิ เห็นได้จากอาคารเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ เช่น สถานกงสุลอังกฤษสร้างด้วยสถาปัตยกรรมอังกฤษที่ยังประดับธงชาติอังกฤษไว้ ภายนอกก่อด้วยอิฐ ภายในตกแต่งด้วยงานไม้ และเครื่องเรือนไม้ โดยคงรูปแบบเหมือนเดิมเมื่อครั้งเปิดทำการเมื่อกว่าร้อยปีมาแล้ว ทั้งห้องรับรอง ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ฯลฯ ชั้น 1 เป็นร้านขายของที่ระลึก ส่วนชั้น 2 คือร้านภัตตาคารเอโคะคุคัง (Eikokukan) ที่เสิร์ฟอาหารตะวันตกมื้อกลางวัน (11:30-15:00) และมื้อเย็น (18:00-20:00 น.) รวมทั้งห้องดื่มชายามบ่าย (Tea room, 10:00-17:00 น.) โดยเปิดบริการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1906 (โทร. 083-242 -2017)

ร้านขายของที่ระลึกชั้น 1 (Souvenir shop) เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์น้องกระต่ายปีเตอร์

 

ความเชื่อมโยงของสถานกงศุล และกระต่ายปีเตอร์ เพราะนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศอังกฤษแล้ว ในปีที่น้องกระต่ายปีเตอร์ถือกำเนิดขึ้นก็ตรงกับปีที่สถานกงสุลเปิดทำการพอดี (ปีค.ศ. 1902)

 

ปีเตอร์ แรบบิท เกิดจากจินตนาการของเบียทริก พอตเตอร์ (Beatrix potter) ในหนังสือภาพ “The tale of peter rabbit”  ซึ่งชาวอังกฤษยกย่องว่าเป็นวรรณกรรมอมตะ และเคยสร้างเป็นหนังมาแล้วด้วย เรื่องมิสพอตเตอร์ (Miss porter) แสดงโดยเรเน่ เซลวีเกอร์ (Rene selveger) และอีวาน แมคเกรเกอร์ (Ewan mcgregor)

 

ร่มลายบึงบัว และหญิงสาว ผลงานของโคลด โมเน่ต์ (Claude monet) ศิลปินชาวฝรั่งเศสในยุคอิมเพรสชั่นนิสต์ (Impressionism) ไปเลือกซื้อกันได้ Address : Former british consulate 4-11 Karato-cho, Shimonoseki-shi, Yamaguchi-ken 750-0005 เปิด 9:00-17:00 น. Call : 083-235-1906   การเดินทาง : อยู่ห่างจาก Kameyama hachimangu shrine ประมาณ 150 เมตร หรือจาก JR Shimonoseki นั่งรถประจำทางลงป้าย Karato เดินต่อเล็กน้อย

 

อาคารตะวันตกที่กระจายอยู่บริเวณ Former british consulate

 

เดินข้ามถนนกลับสู่ท่าเรือคะระโตะอีกครั้ง

เลนจักรยานเคียงข้างทางม้าลายพบได้บนถนนทุกสายทั่วประเทศ

 

เช่นเดียวกับตู้ไปรษณีย์ที่บ่งบอกวิถีชีวีิตคนในเมืองที่ไม่ได้หมุนตามกระแสโลกออนไลน์

 

ร้านขายจักรยานก็มี

 

บรรยากาศผ่อนคลายอีกด้านหนึ่งของท่าเรือคะระโตะ

 

อีกมุมมองของประภาคารริมทะเล

 

แก๊งค์ซิ่ง

 

ประภาคารแดงที่ท่าเรือคะระโตะเป็นจุดตกปลาของคนท้องถิ่น

 

สะพานคัมมงเป็นฉากหลังของประภาคารขาว ซึ่งอยู่คนละฟากฝั่งกับประภาคารแดง

 

ท่าเรือคะระโตะพร้อมกลับสู่ท่าเรือโมะจิโกะ

 

ประภาคารขาวเหมือนฉากที่ถ่ายโฆษณาขนมขบเคี้ยวฮะนะมิของไทยเลย

 

มีวิวชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ในละแวกนี้ให้ชมด้วย ขณะเรือแล่นออกจากท่าคะระโตะ

 

เรือประมงที่จอดเรียงราย กลายเป็นทิวทัศน์อระหว่างท่าเรือทั้งสองแห่ง และช่องแคบคัมมง จากท่าเรือคะระโตะ สู่ท่าเรือโมะจิโกะ