วันสุดท้ายที่เมืองชนบทอะโสะ เริ่มต้นที่สถานีรถไฟเหมือนเช่นเคย สถานีรถไฟแห่งนี้ทาสีดำกลมกลืนไปกับขบวนรถไฟอะโสะบอย (Aso boy) ที่มีน้องหมาคุโระเป็นสัญลักษณ์ คำว่า Kuro แปลว่าสีดำ คนญี่ปุ่นจะนิยมเรียกน้องหมาว่า “คุโระ” มีความหมายว่า “เจ้าดำ” เหมือนคนไทยเรียกน้องหมาว่าเจ้าด่าง เจ้าโฮ่ง เป็นต้น
Aso boy ได้เวลาขบวนรถไฟหนุ่มน้อยอะโสะ
อะโสบอยน่ารักที่สุดในสามโลกแล้ว และเป็นหนึ่งในผลงานสุดคิขุของรถไฟคิวชู (JR kyushu railway) ตกแต่งภายนอก-ภายในด้วยสัญลักษณ์น้องหมาคุโระ ซึ่งต้องจองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น จึงต้องวางแผนการเดินทางว่าจะขึ้นวันไหน โดยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่หน้าเทศกาลอาจเปลี่ยนแล้วไม่ได้วันตามที่ต้องการ เพราะที่นั่งจะเต็มตลอด แต่ถ้านอกเทศกาลเช่นฤดูฝนแบบนี้ สามารถเปลี่ยนได้ตลอด หรือหากจองเพียงไม่กี่ชั่วโมง จะไม่ระบุที่นั่งให้ หมายความว่าว่างตรงไหนก็นั่งได้เลย
อะโสะบอยเปิดบริการตั้งแต่ปีค.ศ. 2011 โดยนำขบวนรถไฟเก่ามาดัดแปลงเป็นขบวนใหม่ และวิ่งระยะสั้นระหว่างสถานี Kumamoto – Miyaji (ที่มีร้านเนื้ออะโสะ) รวมเวลา 1.30 ชั่วโมง ความมหัศจรรย์เกิดขึ้นในเที่ยงวันนั้นช่วงฤดูฝนเดือนมิถุนายน เมื่ออขบวนรถไฟเข้าเทียบสถานีอะโสะปุ๊บ นักท่องเที่ยวต่างพากันถ่ายรูปคู่ด้วยอย่างคึกคัก ไม่แพ้เด็กๆ ต่อคิวรอถ่ายรูปกับบ้านน้องหมาคุโระเลยทีเดียว


อะโสบอยมี 4 โบกี้ แต่ละโบกี้จะออกแบบที่ี่นั่งให้ต่างกัน เช่น ที่นั่งหันหน้าไปทางเดียวกัน ที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน ที่นั่งแบบโซฟา และที่นั่งคู่สำหรับเด็ก – ผู้ใหญ่ โดยโบกี้ที่เป็นขวัญใจของทุกคน และต้องจองล่วงหน้านานเป็นพิเศษ เพื่อให้แน่ใจว่าได้นั่งแน่ๆ คือโบกี้ที่ 3 ซึ่งเป็นบ่อบอล คาเฟ่ และจุดสแตมป์โปสการ์ด
สนุกสนานกับบ่อบอล










