Kyushu All by Yourself

 

วิธีวางแผน

  • เริ่มจากลิสต์สถานที่ที่อยากไป จัดกลุ่มสถานที่เหล่านั้นตามเมือง และจังหวัด
  • เลือก JR Pass ที่สอดคล้องกับสถานทีี่ เมือง และจังหวัดที่เลือกไว้  (JR = Japan railway เป็นบริษัทรถไฟรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งจะออกบัตรโดยสาร JR Pass สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนญี่ปุ่น หรือคนต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่นไม่สามารถใช้ได้ แต่ละภูมิภาคจะมี JR Pass สำหรับเกาะคิวชูมี 3 แบบ คือพื้นที่ตอนเหนือ ตอนใต้ และพื้นที่ทั่วเกาะ)
  • ดูเส้นทางเดินรถไฟว่าจอดสถานีใด เมือง และจังหวัดใด เพื่อวางแผนเที่ยวในแต่ละวัน ตลอดจนการพักค้างคืน
  • ดูข้อมูลว่าจากสถานี JR จะเดินทางต่อไปยังสถานที่เป้าหมายอย่างไร เช่น เดิน ต่อรถไฟท้องถิ่น แท็กซี่ หรือรถประจำทาง (ตามเมืองท่องเที่ยวจะมีตั๋วเหมา หรือ One day pass)

 

แบบที่ 1 Northern kyushu area pass ครอบคลุมพื้นที่ตอนเหนือของเกาะ

ครอบคลุม 5 จังหวัดตอนเหนือ ได้แก่ ฟุคุโอะกะ ซะกะ นะงะสะกิ คุมะโมะโตะ และโอะอิตะ แบบ 3 วัน 8,500 เยน จองที่นั่งได้ไม่เกิน 10 ครั้ง แบบ 5 วัน 10,000 เยน จองที่นั่งได้ไม่เกิน 16 ครั้ง

 

แบบที่ 2 Sounthern kyushu area pass ครอบคลุมพื้นที่ตอนใต้ของเกาะ

ครอบคลุมจังหวัดตอนใต้ เชื่อมโยงกับจังหวัดคุมะโมะโตะ และต่างภูมิภาคที่เมืองหลวงเซนได (Sendai) จังหวัดมิยะงิ (Miyagi) แบบ 3 วัน 7,000 เยน จองที่นั่งได้ไม่เกิน 10 ครั้ง

 

แบบที่ 3 All kyushu area pass ครอบคลุมพื้นที่ทั่วเกาะคิวชู

ครอบคลุม 7 จังหวัดคือ 5 จังหวัดตอนเหนือ และ 2 จังหวัดตอนใต้ที่คะโงะชิมะ และมิยะสะกิ (ไม่รวมจังหวัดที่ 8 คือเกาะโอกินะวะ เนื่องจากเป็นเกาะตั้งอยู่ดดเดี่ยวที่ไกลออกไป)  แบบ 3  วัน 15,000 เยน จองที่นั่งได้ไม่เกิน 10 ครั้ง แบบ 5 วัน 18,000 เยน จองที่นั่งได้ไม่เกิน 16 ครั้ง

 

วิธีซื้อ JR Pass

“Exchange order” เมื่อซื้อจากเมืองไทย (ตามงานท่องเที่ยวญี่ปุ่น และบรษัทตัวแทนจำหน่าย) จะได้ตั๋วหน้าตาแบบนี้ นำไปขึ้นตั่วโดยสารจริงที่ห้อง JR ตามสถานีเมืองหลัก เช่น JR Hakata

 

วิธีขึ้นตั๋วที่ห้องตั๋ว JR Pass

ห้องตั๋ว JR ที่ JR Hakata เพื่อขึ้นตั๋วใช้งานจริง และการเปิดใช้งาน ควรขอตารางเวลาเดินรถ (Timetable) พร้อมจองที่นั่งสำหรับขบวนที่ต้องจอง เช่น Aso boy และ Yufuin no mori ด้วยการกรอกแบบฟอร์ม ถ้าสงสัยจะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำ และยังสามารถซื้อ JR Pass ได้ที่นี่ แต่ราคาแต่ละแบบจะสูงขึ้นประมาณ 500-1,000 เยน

 

ใช้บริการศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวได้ที่สนามบินฟุคุโอะกะ และตามเมืองต่างๆ

 

อื่นๆ เพิ่มเติ่ม

  • ขอตารางเวลาเดินรถ (Timetable) เพื่อวางแผนเดินทางแต่ละวัน ทั้งรถไฟ และรถประจำทางในแต่ละเมืองที่ไป
  • ระวังเรื่องเวลาการเดินรถ เวลาที่ระบุหน้าตั๋วคือเวลาที่รถแล่นออกจากชานชาลา ไม่ใช่เวลาที่รถไฟ หรือรถประจำทางมาถึง จึงต้องเตรียมพร้อมด้วยการมาถึงชานชาลาอย่างน้อยที่สุด 5-10 นาที หรือนานกว่านั้นกรณีกลัวพลาด
  • การเลือกที่พัก สำคัญที่สุดคือเลือกให้ติดสถานีรถไฟไว้ก่อน เพื่อจะได้ออกเช้า และกลับดึกได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบอาคารโรงแรม/ เรียวคัง (Ryokan) หรือบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ให้บริการพร้อมมื้ออาหาร และบางแห่งมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติให้แช่ตัวด้วย/ เกสท์เฮ้าส์/ โฮสเทล ในรูปแบบอาคาร และบ้านญี่ปุ่น ถ้าต้องการใช้ชีวิตลุยๆ หรือมีเพื่อนต่างชาติพูดคุยในแต่ละวันเมื่อกลับถึงที่พัก ซึ่งจะมีพื้นที่ส่วนรวม เช่น ห้องรับแขก ห้องครัวที่ทำอาหารกินเองได้ โดยต้องปฏิบัติตามกฎการอยู่ร่วมกัน เช่น การแยกขยะ การใช้ตู้เย็น การใช้ปลั๊กไฟ การรักษาความสะอาด ฯลฯ
  • การจัดข้าวของลงกระเป๋า เลือกเสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุดแล้วใส่ซ้ำดีกว่าหอบไปเยอะๆ ซึ่งทำให้หนัก และเปลืองพื้นที่ ถ้านอนเกสท์เฮ้าส์หลายวันจะมีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญให้ใช้
  • วางแผนไปกลับจากที่พักโดยหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนของคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเมืองหลักตอนเช้า 7:00-8:00 น. ตอนเย็น 17:00-18:00 น. ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้แวะซื้อหน้ากากอนามัยติดตัวในร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายยา เพราะเป็นช่วงที่บนรถไฟ หรือรถประจำทาง คนจะแน่นเหมือนปลากระป๋อง จึงจำเป็นต้องใช้เพื่อสุขอนามัยตัวเอง และคนรอบตัว
  • เลือกสัญญาณอินเทอร์เน็ตตามการใช้งาน เช่น เปิดโรมมิ่งจากค่ายมือถือที่ใช้งานอยู่ หรือเลือกพ็อคเก็ตไวไฟ (Pocket wifi) หรือซื้อซิมการ์ด (Simcard) โดยทุกช่องทางมีโอกาสอินเทอร์เน็ตหลุด แล้วต้องเชื่อมต่อใหม่ ดังนั้น จะเลือกแบบไหนให้พิจารณาจากที่มี Call center ที่สามารถติดต่อได้กรณีฉุกเฉินหรือไม่
  • อย่าลืมอุปกรณ์ไอทีที่จำเป็น โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป แบตเตอรี่ การ์ดความจำ ปลั๊กไฟ ฯลฯ
  • อย่าลืมหนังสือเดินทาง และกระเป๋าสตางค์ ตรวจสอบวงเงินในบัตรเครดิต บัตรเดบิท หรือแลกเงินสดให้พอเพียง กรณีใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิท ค่าเงินจะคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารในวันนั้นๆ ไม่ใช่คำนวนตามอัตราแลกเปลี่ยนของร้านแลกเงิน (ที่อัตราแลกเปลี่ยนดีกว่าธนาคาร)
  • อย่าลืมซื้อประกันการเดินทาง สอบถามข้อมูลให้ละเอียดถึงการคุ้มครอง ช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉิน ต้องสำรองเงินจ่ายก่อนหรือไม่ ฯลฯ
  • พร้อมแล้วก็ไปกันเลัยยยย