Dining Dai, Romancing Saga, Karatsu Castle

ซะกะเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่มีของดีซ่อนอยู่มากมาย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการจัดเทศกาลบัลลูนระดับนานาชาติมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1997 เป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง และละครชุดหลายเรื่อง เช่น ซะกะฉันจะคิดถึงเธอ กลกิโมโน และ Timeline จดหมายความทรงจำ จนเจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวที่ JR Saga บอกว่าคนไทยมาเที่ยวที่นี่เยอะเลย !!! ซะกะยังเป็นจังหวัดที่ซ่อนตัวในหุบเขา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาอันเป็นศิลปะชั้นสูงมายาวนานกว่า 400 ปี พร้อมๆ กับมีความอุดมสมบูรณ์ จนเป็นแหล่งอาหารทะเล โดยเฉพาะปูทะเคะซะกิ (Takezaki) และฟาร์มวัวที่ให้ผลผลิตเนื้อซะกะ หรือซะกะกิว (Sagagyu) ที่ต้องดั้นด้นมาลองให้ได้

Dining dai ร้านเนื้อซะกะนุ่มๆ และชุ่มฉ่ำ

การกินเนื้อซะกะ หรือซะกะกิว (Saga gyu) นั้นอยู่ในลิสต์ ดังนั้น ขณะพักที่เมืองคะรัทสึ (Karatsu) จึงนั่งรถไฟแต่เช้าตรู่มายัง JR Saga แล้วดิ่งเข้าไปศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวถามว่ากินเนื้อซะกะร้านไหนดี เจ้าหน้าที่แนะนำร้านเนื้อดังที่ดังที่สุดของเมืองชื่อ “คิระ” (Kira) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟเกือบหนึ่งกิโลเมตร และไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ปราสาทซะกะ ประมาณว่ากินอิ่มแล้วเข้าพิพิธภัณฑ์ต่อเลย แต่เห็นรูปแล้วดูเป็นภัตตาคารที่ต้องกลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ (ฮา) จึงเปลี่ยนใจเลือกร้านธรรมดาอย่าง Dining dai แถมอยู่ใกล้สถานีรถไฟมากๆ ด้วย

เดินนิดเดียวก็ถึงแล้ว

จาก JR saga ผ่านรูปปั้นขบวนแห่ในเทศกาลคะรัทสึคุนจิ (Karatsu kunji) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด ข้ามถนนแล้วเดินเลียบตามฟุตปาธซ้ายมือ ตรงหัวมุมจะพบร้าน Dining dai เป็นอาคารสีขาว มีรูปวัวอยู่ถึงแล้วไดนิ่งไดเป็นร้านระดับกลาง ภายในมีที่นั่งแบบโต๊ะกับแบบดั้งเดิมนั่งบนพื้นในห้องรวม เมนูออกแบบได้น่ารักดี สเต็ก 100 กรัม 1,830 เยน 150 กรัม 2,300 เยน สั่งแบบ 150 กรัมไปเลย จะได้อิ่ม อันนี้เป็นราคาเริ่มต้น อาหารชุดของร้านเริ่มจากสลัดราดน้ำสลัดใสรสเปรี้ยวจากแอปเปิ้ลไซเดอร์ (Apple cider) ตามด้วยซุปข้าวโพดที่หอมนุ่ม ต่อด้วยสเต็กที่เสิร์ฟแบบจานร้อนรูปวัว พร้อมน้ำจิ้มรสฉุนปรุงจากเหล้า และข้าวร้อนๆ มื้อนี้อร่อยมาก เพราะเนื้อนุ่มฉ่ำ เป็นวะกิวที่หวานกลมกล่อม ไม่ต้องกินน้ำจิ้มเลย

เรียกน้ำย่อยด้วยซุปข้าวโพดหอมนุ่ม และสลัดผักสดกรอบราดน้ำสลัดเปรี้ยวๆ ใสๆ
เนื้อซะกะ 100 กรัม นุ่มชุ่มฉ่ำ หวานเค็มกลมกล่อม ไม่ต้องจิ้มซอสเลย

วะกิวคืออะไร วะกิว (Wagyu) คือเนื้อญี่ปุ่นนั่นเอง มาจาก wa แปลว่าความเป็นญี่ปุ่น และ gyu แปลว่าเนื้อ ถ้าเอ่ยถึงเนื้อญีุ่่น จะทราบว่ามีคุณภาพสูง และราคาสูง เนื่องจากกระบวนการทำฟาร์มมีความพิถีพิถันมาก วัวแต่ละตัวต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างพิเศษในทุกรายละเอียด เช่น อาหาร แหล่งน้ำ สภาพแวดล้อม การปรนนิบัติ ฯลฯ เพื่อให้ได้เนื้อที่มีรสชาติดี ถึงขั้นมีการตั้งสมาคมจัดเกรดเนื้อวัวระดับประเทศเลยทีเดียว โดยเกรดสูงสุดคือ A5 ซึ่งคำนวณจากปริมาณเนื้อที่วัวแต่ละตัวผลิตได้ รวมกับความละเอียดของส่วนเนื้อแดง ลายไขมัน สี และความเงาวาว ถ้าเดินดูเนื้อบ่อยๆ ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งในญี่ปุ่น หรือในไทย ถ้าเห็นลายเนื้อสวยๆ แบบแผ่นเนื้อเป็นสีแดงอ่อนๆ เป็นเงาวาว และมีลายไขมันแทรกอยู่ทั่วแผ่นอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีไขมันเป็นปื้นๆ จะทราบในทันทีว่าคือเนื้อเกรด a5 หรือไม่ก็ a4 ทั้งหมดที่ว่ามานี้ทำให้วะกิว หรือเนื้อญี่ปุ่น สำหรับในญี่ปุ่นจะมีราคาสูงกว่าเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น อเมริกา และออสเตรเลีย

เมนูน่ารักมุ้งมิ้ง

วะกิวหมายถึงเนื้อญี่ปุ่น แต่ในประเทศญี่ปุ่นจะมีหลายเมืองที่ทำฟาร์มวัว เมื่อได้ผลผลิตคุณภาพจะนำชื่อเมืองมาตั้งชื่อเนื้อเพื่อบอกว่าเป็นเนื้อจากเมืองใดจังหวัดใด หากย้อนกลับไปถึงต้นกำเนิดวะกิวอันลือชื่อแล้ว ก็ต้องเอ่ยถึงเนื้อมัทสึซะกะจากเมืองมัทสึสะกะ (Matsusaka) และเนื้อโคะเบะจากเมืองโคะเบะ (Kobe) จากวัวดำพันธุ์ทะจิมะ (Tajima) ซึ่งเป็นพันธุ์ผสมระหว่างพันธุ์ญี่ปุ่นกับพันธุ์ยุโรปที่เลี้ยงในหุบเขาฮะจิมะในจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) ต่อมาการทำฟาร์มวัวได้กระจายไปทั่วประเทศ จนกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวต้องดั้นด้นไปลิ้มลองให้ได้ เพราะไม่นิยมส่งออกเนื้อวัวไปยังจังหวัดอื่นๆ จึงกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวนั่นเอง

น่ารักมุ้งมิ้ง และเป็นมิตร
Address : Dining dai 1-5-15 Saga-eki, Saga-shi, Saga-ken Phone : 0952-27-5677  เปิดบริการ 11:30 – 14:30 น. และ 17:00 – 23:00 น.  การเดินทาง : จาก Saga station เดินจากหน้าสถานีตรงข้ามสี่แยกไฟแดง 5 นาที (อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ 200 เมตร)

More

*Kira 

ร้านเนื้อคิระ สเต็ก 100 กรัม เริ่มต้นที่ 4,900 เยน เปิด 11:00-15:00 น. และ 17:00-22:00 น. ปิดทุกวันพุธที่ 2 ของเดือน Address : 3-9-16 Otakara, Saga-shi, Saga-ken 840-0811 Phone : 0952-28-4132  การเดินทาง : จาก JR Saga เดิน 20 นาที หรือนั่งแท็กซี่ 5 นาที

*Saga castle history museum

พิพิธภัณฑ์ที่ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ตามแบบดั้งเดิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว พื้นปูเสื่อทาทามิ (Tatami) เรียงต่อกันกว่า 300 ผืน ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับซากปราสาทซางะ (The ruins of saga castle) ที่ตกทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ตัวปราสาทสร้างบนพื้นราบ ล้อมรอบด้วยคูน้ำกว้างกว่า 50 เมตร ปัจจุบันตกแต่งด้วยน้ำพุ นกน้ำ ปลาคาร์ฟ ฯลฯ และมีสวนดอกไม้ เช่น อาซาเลีย และเป็นจุดชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิด้วย Address : 2-18-1 Jonai, Saka-shi, Saga-ken 840-0041 โทร. 0952-41-7550 เปิด 9:00-18:00 ไม่เสียค่าธรรมเนียม (แต่มีกล่องรับบริจาค)  การเดินทาง : จาก JR Saga เดิน 20 นาที หรือนั่งแท็กซี่ 5 นาที

 

สถานีรถไฟซะกะสู่เมืองคะรัทสึ (Karatsu) 

ยังมีเวลานิดหน่อยก่อนรถไฟไปเมืองคะรัทสึจะออก เดินดูร้านรวงต่างๆ ภายในสถานีรถไฟ JR Saga ซึ่งมีปลาหมึกเส้น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาหมึกที่เป็นอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง
รวมทั้งร้านข้าวกล่องสถานีรถไฟ หรือเอะคิเบน (Ekiben)

ร้านขนมหวานญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (Wagashi) แค่เดินดูหีบห่อก็คุ้มแล้ว

กาแฟร้านสะดวกซื้อแบบบริการตัวเอง แถมราคาย่อมเยาด้วย แก้วนี้ 180 เยน ได้กาแฟดำ ถ้าลาเต้ก็แค่เพิ่มเงิน และหยิบครีมในถ้วยเล็กๆ เติมลงไปตามความพอใจ พร้อมไซรัป

RomancingSaga จาก Saga สู่ Karatsu

รถไฟขบวนนี้ชื่อโรแมนซิ่งซะกะ (Romancing saga) โดย Kyushu railway เครื่องดีเซล ออกวิ่งเมื่อปีค.ศ. 2015 เพื่อฉลองที่เกมส์ Romancing SaGa มีอายุครบ 25 ปีในปีนั้น
ั
Romancing saga ที่สถานีคะรัทสึ

จากสถานีรถไฟต่อรถประจำทาง ก็มาถึงปราสาทคะรัทสึ ต้องเดินลงอุโมงก์ ซึ่งบนผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องลายขบวนเกี้ยวในเทศกาลคะรัทสึคุนจิ (Karatsu kunchi) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ สามารถชมของจริงได้ที่ Hikiyama float exhibition hall แต่เมื่อถึงประจำฤดูใบไม้ร่วงราวต้นเดือนพฤศจิกายน จะนำขบวนเกี้ยวทั้ง 14 คัน ที่เป็นตัวแทน 14 ตำบล แห่ไปรอบเมือง ขบวนเกี้ยวนี้เป็นงานช่างฝืมือพื้นบ้านที่สืบทอดมานานหลายร้อยปี ทำจากไม้ และกระดาษเคลือบ นับเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีความสำคัญ และนำความภูมิใจมาสู่ชาวคะรัทสึ  Address : Hikiyama float exhibition hall 6-33 Nishi jonai, karatsu-shi, saga-ken ค่าธรรมเนียม 300 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 150 เยนสำหรับเด็ก

ภายในอุโมงค์ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายขบวนเกี่้ยวคะรัทสึคุนจิ

ปราสาทคะรัทสึ (Karatsu castle)

ปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่ริมทะเล มีความสูง 5 ชั้น สร้างในสมัยเอโดะราวปี 1608 แต่ถูกทำลายลง จึงสร้างใหม่ในปี 1966 มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ไมซุรุ” (Maizuru) หมายถึงนกกระเรียน เพราะเมื่อมองจากที่ไกล และสูง จะแลดูเหมือนนกกระเรียนกำลังบิน หรือเต้นรำ โดยมุมของหลังคาชั้นบนสุดทั้งสองด้านประดับปีกหงส์ ภายในมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในอดีต และยังมองเห็นเกาะๆ หนึ่งที่ดูคล้ายภาพวาดในวรรณกรรมเยาวชนเรื่องเจ้าชายน้อย (Little prince) ตอนเปิดเรื่องที่เด็กชายวาดรูปงูเขมือบช้าง แต่ผู้ใหญ่มองว่าเป็นหมวก

นี่ไง เกาะทะคะชิมะ (Takashima) ที่รูปทรงคล้ายภาพวาดในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “เจ้าชายน้อย” (Little prince)

 

อาคารเล็กริมทะเลขายของที่ระลึก

 

เต็มไปด้วยงานผ้าที่วาดลายขบวนเกี้ยวในเทศกาลคะรัทสึคุนจิ

คะรัทสึยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการผลิตเครื่องปั้นดินเผา (Karatsu yaki) ที่ได้รับอิทธิพลจากคาบสมุทรเกาหลีตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ด้วย โดยเป็น 1 ใน 3 สุดยอดเครื่องปั้นดินเผาแบบ “คะรัทสึ” ที่โดดเด่นเรื่องความทนทาน และรูปแบบที่เรียบง่าย ไม่เน้นสีฉูดฉาด หรือลวดลายแพรวพราว อีกสองแบบคือระกุ (Raku) และฮะกิ (Hagi)

เครื่องปั้นดินเผาคะรัทสึ
มาเดี่ยวๆ ก็ได้ แต่มาเป็นคู่ก็จะประมาณนี้
เป็นวันฝนตกที่ดี เพราะความเขียวที่ทำให้สดชื่น และการเดินมีความหมายตรงที่ได้เจอต้นไม้เล็กๆ ตลอดทางเดิน แม้แต่ผืนดินก็เต็มไปด้วยพืชฤดูฝน  Address : Karatsu castle 8-1 saga-ken karatsu-shi 847-0016 เปิดบริการ 9.00-16 หยุดช่วงปีใหม่ ค่าธรรมเนียม 410 เยน เด็ก 200 เยน Phone : 0955-72-5697 การเดินทาง : จาก Karatsu station เดิน 20 นาที นั่งรถประจำทาง 15 นาที

บรรยากาศฝนตกที่เมืองคะรัทสึ

ถนนหน้าปราสาทคะรัทสึ

 

บรรยากาศเมืองคะรัทสึที่ฝนตก

 

 

JR Karatsu พร้อมสัญลักษณ์นกกระเรียน และขบวนเกี้ยว

นกกระเรียน สัญลักษณ์ของเมืองคะรัทสึ
รูปแกะไม้ ในชบวนแห่ “คะรัทสึคุนจิ” หนึ่งในประเพณีท้องถิ่นของเมืองคะรัทสึ

 

ชมทิวทัศน์ทะเลเกนไคไปเกือบตลอดทาง

สุดอาณาเขตทะเลเกงไคก็เป็น่ทิวทัศน์ทุ่งนาแบบนี้

Karatsu seaside hotel หนึ่งในโรงแรมติดทะเลพร้อมอนเซนกลางแจ้ง

วิวเจ้าชายน้อยตามมาถึงที่นี่
เพราะว่าเมืองคะรัทสึมีทิวทัศน์ของทะเลเกนไคนั่นเอง จึงมีที่พักริมทะเลอยู่หลายแห่ง เช่นโรงแรมแห่งนี้ พร้อมออนเซนริมทะเล ถ้าชอบบรรยากาศแบบนี้ ลองไปพักผ่อนกัน ห้องพักส่วนใหญ่เห็นวิวทะเล
อนเซนในอาคารกว้างใหญ่ลงแช่ได้สบาย แต่ห้ามว่ายน้ำ
ถึงห้องเปลี่ยนชุดแล้ว ถอดยุคะตะเก็บไว้ในตะกร้า เดินตัวเปล่าไปล้างตัวก่อน พกผ้าขนหนูผืนเล็กไปด้วยได้
ลานล้างตัว ก่อนลงแช่บ่อน้ำพุร้อนในร่ม หรือกลางแจ้งวิวทะเล
ห้องแต่งตัว เมื่อแช่ตัวเต็มอิ่มแล้ว
ต่อด้วยมื้อเช้าที่ห้องอาหารริมทะเล มีอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่เลือกได้ตามใจจัดลงในจามหลุมแบบนี้
ถูกใจที่สุดในมื้อนี้คือส้มที่ได้รสหวานซ่อนเปรี้ยว ตัดกับพุดดิ้ง และคัสตาร์ด ทำให้เช้าวันนั้นสดใสมากๆ Address : 4-182 Higashi-karatsu, Karatsu-shi, Saga-ken 847-0017 website : www.seaside.karatsu.saga.english  การเดินทาง : จาก Karatsu station ด้วยบริการรับส่งของโรงแรม 5 นาที

 

More-ตามรอย Stay ซะกะฉันจะคิดถึงเธอ ที่เมืองคะรัทสึ

*Yobuko no asaichi

ตลาดเช้าโยะบุโกะตลอดถนนความยาวร่วม 200 เมตร มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของสดจากทะเล พร้อมอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่างปลาหมึกโยะบุโกะ (Yobuko squid) ซึ่งมีเนื้อใสแจ๋วจากทะเลเกงไค (Genkai) นิยมรับประทานสด หรือจะชุบแป้งทอด หรือต้มเกลือก็ ตลาดเปิดบริการ 07:30-12:00 น. และไม่ไกลกัน ยังมีท่าเรือโยะบุโกะที่จะล่องเรือท่องเที่ยวไปโพรงถ้ำทั้ง 7 (Nanatsugama caves) กลางทะเลเกงไคด้วย  Address : Yobuko no asaichi, Yobuko,  Yobuko-cho, Karatsu-shi, Saga-ken  Phone : 0955-82-3011  การเดินทาง : จาก Karatsu station ขึ้นแท็กซี่ 30 นาที หรือจาก Karatsu Oteguchi bus center (เดิน 5 นาที จากทางออกทิศเหนือของ JR Karatsu) ขึ้นรถประจำทาง Showa ลงป้าย Yobuko เดินต่อ 3 นาที

 

*Hadomisaki cape

แหลมฮะโดะมิสะกิขนาดเล็กยื่นออกมาจากคาบสมุทรฮิกะชิมัสสึอุระ (Higashimatsuura) บนชายหาดมีหินรูปหัวใจสีขาวเป็นสัญลักษณ์ความรักที่ยั่งยืน และหอชมวิวใต้ทะเลเกงไค (Genkai underwater observation tower) ที่ต้องเดินออกไปบนสะพานยาวเกือบ 90 เมตร เพื่อลงไปยังจุดที่ลึกถึง 7 เมตร และเนื่องจากเป็นบริเวณกระแสน้ำอุ่น และน้ำเย็นไหลมารวมกัน จึงได้เห็นสัตว์น้ำแปลกๆ มากมาย ส่วนบริเวณชายหาดที่อยู่ไม่ไกล ยังมีพื้นที่ตั้งแคมป์ พร้อมกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เช่น เดินป่า ตกปลา ว่ายน้ำ ฯลฯ Address : Hodomisaki 1082 Chinzeimachi, Hado, Karatsu-shi, Saka-ken 847-0404 Phone : 0955-72-4963  การเดินทาง : จาก Karatsu Oteguchi bus center (เดิน 5 นาที จากทางออกทิศเหนือของ JR Karatsu)  ขึ้นรถประจำทางลงป้ายสุดท้าย Hodomizaki 50 นาที เดินต่ออีก 5 นาที

 

*Niji no matsubara

ถนนป่าสนดำนับล้านต้นที่เรียงรายไปตลอดสองข้างทาง มีเสน่ห์ตรงรถกระบะสีขาว-แดงที่ขายอาหารท้องถิ่น (Food truck) อย่างแฮมเบอร์เกอร์คะรัทสึ (Karatsu burger) มานานกว่า 50 ปีแล้ว รวมทั้งชายหาดนิจิโนะ (Niji-no) ที่เป็นบริเวณจุดดอกไม้ไฟในช่วงฤดูร้อน โดยมีปราสาทคะรัทสึเป็นฉากหลัง ป่าสนแห่งนี้หากมองจากมุมสูงเกือบ 300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลบนภูเขาคะกะมิยะมะ (Kagamiyama) จะเห็นต้นสนโค้งไปตามแนวชายฝั่งอ่าวคะระสึยาวเกือบ 5 กิโลเมตร กว้าง 1 กิโลเมตร แลดูคล้ายรุ้งกินน้ำ จึงมีชื่อเรียกว่า “ป่าสนรุ้งกินน้ำ” ซึ่งเป็นเขตป่าสนดำที่ใหญ่ติดอันดับประเทศ Address : Niji no matsubara 1-1 Nishijonai, Hamakita-cho, Karatsu-shi, Saga-ken 849-5131